วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 12
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน

ความรู้ที่ได้รับ
เริ่มด้วยการที่อาจารย์ให้นักศึกษานำสิ่งประดิษฐ์ที่ต้องไปแก้ใขมานำเสนอ

ต่อด้วยกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ มี4องค์ประกอบ
1.ร่างกาย
2.พื้นที่
3.ระดับ
4.ทิศทาง

 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ หมายถึง กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างอิสระ โดยใช้เสียงเพลง จังหวะ และทำนอง คำคล้องจอง หรือเครื่องดนตรีประกอบ การเคลื่อนไหว เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้จังหวะ และควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้ ธรรมชาติของเด็กปฐมวัยจะเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อใช้พลังกายและถ่ายพลังที่มีอยู่ล้นเหลือออกมา แต่ในขณะเดียวกันร่างกายและจิตใจของเด็กจะสมบูรณ์จากการเคลื่อนไหว ดังนั้น กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะจึงได้รับการจัดเป็นกิจกรรมหลักเพื่อพัฒนาเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ มีผลต่อการพัฒนาการเด็ก ดังนั้นการใช้กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะจึงมีผลทำให้เด็กเรียนรู้ร่างกายของตนว่า การใช้ร่าง กายแต่ละส่วนอย่างไร ซึ่งมีความหมายต่อเด็กมาก เด็กจะมีโอกาสได้ประเมินความสามารถของตนเอง ทำให้เด็กได้คิด ได้ตัดสินใจว่าจะเคลื่อนไหวแบบใด อย่างไร อีกทั้ง การเคลื่อนไหวไปพร้อมเพื่อนอย่างมีความหมาย จะทำให้เด็กเรียนรู้การปฏิบัติต่อกัน ทำให้เด็กเกิดความมั่นใจทั้งเป็นการลดอัตตา (Ego) ไปสู่การมีเหตุผลและคุณธรรม (superego) เด็กได้รับการฝึกการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ บุคลิก ขอบเขตรอบตัวด้วยการใช้เสียงเพลง ดนตรีทำให้เด็กเรียนรู้จังหวะ และเกิดจินตนาการ ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะไว้เป็นกิจกรรมหลักในตารางกิจกรรมประจำวันที่เด็กจะต้องได้รับการส่งเสริม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโป่งสลอดจัดกิจกรรมให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นประจำเด็ก ๆ จะมีความสุขที่จะได้ขึ้นเวทีมาแสดงท่าทางที่ตนได้มีโอกาสแสดงออกด้วยความสุข สนุกและมีความเชื่อมั่นในตนเอง.... เกร็ดความรู้เพื่อนครู การจัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ ครูควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ 
1. จัดกิจกรรมท่ามกลางบรรยากาศความสุขและสนุกสนาน ชวนเด็กร่วมกิจกรรมดีกว่าการบังคับ 
2. เด็กควรได้รู้จักชื่อท่าการเคลื่อนไหวเบื้องต้นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาษาไปด้วย 
3. ส่งเสริมให้เด็กเคลื่อนไหวและจังหวะเป็นไปตามธรรมชาติของเด็กปฐมวัย และตอบสนองความต้องการของเด็กให้เพียงพอ 
4. เน้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็กมากกว่าการทำท่าทางตามครูบอกหรือการสาธิต 
5. ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้กล้ามเนื้อใหญ่ก่อน ได้แก่ การใช้กล้ามเนื้อลำตัว แขน ขา 
6. สร้างทัศนคติที่ดีต่อตนเองให้แก่เด็กว่า ตนความสามารถที่จะเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่าง กายได้ เป็นการพัฒนาการรับรู้เกี่ยวกับตนเองและพัฒนาจิตใจ สร้างความเชื่อมั่นในตนเองให้แก่เด็ก

มีทั้งหมด 6 รูปแบบคือ
1.การเคลื่อนไหวประกอบเพลง
2.การเคลื่อนไหวประกอบคำบรรยาย
3.การเคลื่อนไหวตามคำสั่ง
4.การเคลื่อนไหวแบบผู้นำผู้ตาม
5.การเคลื่อนไหวตามข้อตกลง
6.การเคลื่อนไหวแบบความจำ

จากนั้นให้แต่ละกลุ่มจับฉลากว่าจะสอนการเคลื่อนไหวรูปแบบไหน

กลุ่มที่ 1 การเคลื่อนไหวตามข้อตกลง


กลุ่มที่ 2 การเคลื่อนไหวประกอบเพลง


กลุ่มที่ 3 การเคลื่อนไหวแบบผู้นำผู้ตาม


กลุ่มที่ 4 การเคลื่อนไหวตามข้อตกลง


กลุ่มที่ 5 การเคลื่อนไหวตามคำสั่ง


การประเมินอาจารย์ผู้สอน
- กิจกรรมมีความหลากหลายและสอดคล้องกับองค์ความรู้ที่จำเป็น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น